แม่ผู้ให้

 
   
   
 

      ชายผู้เป็นพ่อ อุ้มลูกออกจากงานศพของภรรยาตน เขาอยู่ในอาการโศกเศร้าเป็นอย่างมาก แต่ไม่สามารถแสดงอาการนั้นออกมาได้เลย เพราะลูกสาวตัวน้อยที่กำลังน่ารักไร้เดียงสา พอมาถึงรถ ลูกสาวที่แสนร่าเริงและไม่รู้อีโน่อีเหน่ว่าได้เสียแม่ของตัวไปแล้วนั้น ก็หันหน้ามาถามพ่อว่า คุณแม่ไปไหนล่ะค่ะ ทำเอาผู้เป็นพ่อแทบเก็บน้ำตาไว้ไม่อยู่ หันไปบอกลูกสาวตัวน้อยว่า แม่อยู่ไกล แล้วไว้พ่อจะพาไปหาแม่ พูดจบประโยค เจ้าตัวเล็กก็พยักหน้าอมยิ้มให้พ่ออย่างเข้าใจ และหันไปเล่นของเล่นต่อไป ผู้เป็นพ่อรู้สึกเสียใจ และอยากจะร้องไห้ครั้งแล้วครั้งเล่า ตลอดการขับรถกลับบ้าน ในบางช่วงขณะ เขานึกโกรธภรรยา ที่ได้ด่วนจากเขาไป และปล่อยให้เขาต้องคอยอธิบายและตอบคำถามที่แสนเจ็บปวดใจให้กับลูกสาวอยู่เพียงลำพัง เขาเฝ้าโทษภรรยาอยู่ตลอดเวลา

 
     
 

      หลังงานศพผ่านไป เขาตัดสินใจ นำผงกระดูกของภรรยาไปลอยอังคาร โดยมีญาติๆ และลูกสาวตัวน้อยติดสอยห้อยตามไปด้วย เขาเปิดผ้าขาวที่คลุมผงกระดูกของภรรยาออก และนำพวงมาลัยมาวาง เจ้าตัวน้อย มองผงกระดูกอย่างตั้งใจ ก่อนที่เขาจะโรยผงกระดูก เขาได้เรียกชื่อภรรยา และบอกให้เธอไปสู่สุขติ เมื่อลอยอังคารเสร็จ ทุกคนต่างพากันแยกย้ายกลับบ้าน พ่อลูกขึ้นรถ ดวงตาของลูกสาว มองมายังพ่อ เธอเกาะแขนพ่อไว้แน่น พอได้เข้าไปนั่งในรถ พ่อสังเกตเห็นว่า ลูกสาวเอาแต่นั่งหลับตา ความกังวลใจของผู้เป็นพ่อเริ่มถากโถมเข้ามาอีกครั้ง จะเริ่มบอกลูกยังงัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น ว่าแม่ได้จากเราสองคนพ่อลูกไปแล้ว เขานึกถึงภรรยาขึ้นมาทันที ผมจะบอกลูกยังงัยดี ว่าคุณได้ทิ้งเราสองคนพ่อลูกให้อยู่เพียงลำพัง ผมจะทำยังงัยดี ทันใดนั้น ผู้เป็นพ่อเลยเอ่ยถามลูกสาวว่า หนูง่วงนอนเหรอลูก ลูกสาวตัวน้อย หันไปมองหาพ่อ แล้วตอบว่า เปล่าค่ะ และหันกลับไปหลับตาเช่นเคย ต้องมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นแน่นอน เจ้าตัวเล็กไม่เคยเป็นอย่างนี้ พ่อจึงเอ่ยถามต่อว่า แล้วหนูหลับตาทำไมล่ะลูก

 
     
 

      ลูกสาวตัวน้อย ลืมตา และหันไปมองพ่อทันที แล้วเริ่มเล่าว่า วันที่คุณแม่ พาไปสวนสัตว์ หนูได้เข้าไปดูในพิพิธภัณฑ์ด้วย หนูเห็นสัตว์ที่มีแต่แท่งสีขาวต่อกันอยู่เป็นตัว หนูถามคุณแม่ว่ามันคือตัวอะไร แม่บอกหนูว่า มันคือสัตว์ที่ได้จากโลกนี้ไปแล้ว เมื่อมันได้จากโลกนี้ไป มันก็จะทิ้งกระดูกสีขาวไว้อย่างนี้ ไม่ว่าจะเป็นใคร ไม่ว่าจะเป็นแม่ เป็นคุณพ่อ หรือว่าเป็นหนู เมื่อได้จากโลกนี้ไป สิ่งที่เหลืออยู่ก็มีแค่กระดูกอย่างที่ลูกเห็นแค่นี้เท่านั้น สาวน้อยเงียบไปสักพัก ผู้เป็นพ่อก็เริ่มถามต่อว่า แล้วหนูหลับตาทำไม เจ้าตัวน้อย หันไปยิ้มกับพ่ออีกครั้ง แล้วตอบว่า คุณแม่บอกว่า หากเมื่อใดที่หนูเห็นอะไรแบบนี้อีก ให้หนูคิดถึงตอนได้ของเล่นว่าหนูดีใจ และมีความสุขแค่ไหน และให้หลับตานึกถึงพวกมัน และอยากให้พวกมันมีความสุขแบบหนูบาง น้ำตาพ่อเริ่มไหล แล้วตอนนี้หนูกำลังนึกถึงใคร ลูกสาวตัวน้อยเงียบไปสักพักใหญ่ ทำเอาใจของผู้เป็นพ่อแทบร้องไห้โห สักพัก ก็ได้ยินเสียงลูกสาวพูดต่อว่า วันนี้หนูเห็นกระดูกสีขาว หนูคิดถึงคุณแม่ค่ะ หนูเลยอยากให้คุณแม่มีความสุขเหมือนหนู น้ำตานองหน้าผู้เป็นพ่อ ในใจของเขามีแต่เสียงสะอื้นของตัวเอง แต่ไม่สามารถแสดงออกมาได้ ผู้เป็นพ่อเริ่มชะรอหยุดรถ แล้วโน้มตัวไปกอดลูกสาวตัวน้อยทันที ลูกรัก แม่ของลูกไปสวรรค์แล้ว มันไกลมาก สักวัน เราสองคนคงได้เจอแม่ คำพูดของเด็กคนหนึ่ง ทำเอาผู้เป็นพ่อกลั่นน้ำเสียง และน้ำตาไว้ไม่ไหว เธอเอ่ยเพียงประโยคสั้นๆว่า “ไม่หรอกค่ะพ่อ แม่อยู่ไม่ไกล” เด็กน้อยจับมือพ่อ และมาวางไว้ตรงหน้าอกข้างซ้ายของตัวเอง แล้วพูดว่า “แม่จะอยู่ตรงนี้ตลอดไปค่ะ แม่บอกหนูเอาไว้” พ่อกอดลูกไว้แน่น และเริ่มรับรู้ได้ว่า แม่ มีความหมายมากกว่าสิ่งใด..

 
     
 

แล้วคุณล่ะ.. วันนี้ คุณทำให้แม่มีความสุขบ้างหรือยัง หรือจะต้องรอจนกว่า วันที่คุณมีโอกาสแค่เพียง นึกถึงแม่อยากให้แม่มีความสุขเท่านั้น

บทความดีๆ จาก oHoMyLife.com

 
     
  ส่งให้เพื่อน     
  อีเมลเพื่อน :    อีเมลผู้ส่ง :