|
- รับประทานติดต่อกันทุกวันจนหมด
เพื่อให้การรักษาได้ผลดี ยาบางประเภทต้องรับประทานติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน หรือตามแพทย์สั่ง แม้ว่าอาการจะทุเลาลง
หรือไม่มีอาการแล้วก็ตาม ตัวอย่างเช่น ยาฆ่าเชื้อ อะม๊อกซี่ซิลีน, เตตร้าชัยคลิน หากรับประทานไม่ครบกำหนดระยะเวลา
จะทำให้การรักษาไม่ได้ผล และอาจเกิดการดื้อยาได้ ยารักษาโรคเรื้อรังบางอย่างต้องรับประทานยาเป็นเวลานาน หยุดเองไม่ได้
เช่น ยาจำพวกสเตียรอยด์ (เพรดนิโซโลน) ยารักษาความบกพร่องของร่างกาย เช่น ยารักษาโรคเบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, โรคกระดูกบางชนิด
- เฉพาะเวลามีอาการ
ยาที่ใช้บรรเทาอาหารต่างๆ เช่น ยาแก้ไอ ยาลดน้ำมูก ยาแก้ปวด ยาแก้ไข้ แก้ท้องเสีย แพทย์อาจสั่งให้รับประทานเป็นช่วงๆ
เช่น ทุก 4 ชั่วโมง เวลามีอาการ เมื่ออาการทุเลาลงจึงหยุดยาได้ ไม่จำเป็นต้องรับประทานต่อเนื่อง
- ก่อนอาหาร
ควรรับประทานก่อนอาหาร 1/2-1ชั่วโมง อาหารอาจลดการดูดซึม หรือยับยั้งทำให้ยาบางชนิดออกฤทธิ์น้อยลง
เช่น ยาปฏิชีวนะต่างๆ ยาบางอย่างต้องการให้ออกฤทธิ์ก่อนอาหารเพื่อผลต่อระบบทางเดินอาหาร เช่น ยาแก้อาเจียน
หรือในกรณียาเบาหวานบางชนิดที่ต้องรับประทานก่อนอาหาร เพื่อให้การดูดซึม และการออกฤทธิ์มีความสัมพันธ์กับ
การลดระดับน้ำตาลในเลือด
- หลังอาหาร
โดยทั่วไปควรรับประทานหลังอาหาร 15-30 นาที ยกเว้น ยาที่ระบุให้รับประทานหลังอาหารทันที
- หลังอาหารทันที หรือ พร้อมอาหาร
ยาบางชนิดทำให้เกิดการระคายเคืองกระเพาะ อาจทำให้คลื่นไส้อาเจียนได้ การรับประทานหลังอาหารทันที
หรือ พร้อมอาหาร เพื่อลดปัญหาดังกล่าว เช่น เพรดนิโซโลน แอสไพริน หรือในกรณียาเบาหวานบางชนิด
รับประทานพร้อมอาหารเพื่อช่วยลดการดูดซึมน้ำตาล
- ควรดื่มน้ำตามมากๆ
ยาพวกซัลฟา ละลายน้ำได้น้อยมากอาจตกตะกอนในไต การดื่มน้ำมากๆ จะช่วยเพิ่มการละลายได้
หรือยาถ่ายที่ทำให้เพิ่มกากอุจจาระ หรือที่ทำให้อุจจาระนิ่ม ควรดื่มน้ำตามมากๆ
- เคี้ยวยาให้ละเอียดก่อนกลืน
ยาลดกรดชนิดเม็ด หรือยาบางชนิด ต้องเคี้ยวก่อนเพื่อให้ยากระจายตัวในกระเพาะอาหาร และออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น
- ห้ามรับประทานร่วมกับเหล้า หรือ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
ยาปฏิชีวนะบางชนิด, ยาลดน้ำตาลในเลือด, ยาระงับประสาท, ยานอนหลับ, ยาแก้ปวด หรือ
ยากดประสาทต่างๆ ตลอดจนยาแก้แพ้ จะเสริมฤทธิ์กับแอลกอฮอล์ทำให้เกิดอันตรายได้
- ไม่ควรรับประทานยานี้ร่วมกับนม หรือยาลดกรด
เพราะนมและยาลดกรดทำให้การดูดซึมยาบางชนิดลดลง จึงทำให้ผลการรักษาลดลงด้วย เช่น
เตตร้าซัยคลิน, ยาบำรุงที่มีธาตุเหล็ก
- รับประทานยานี้แล้วอาจทำให้ง่วงซึม
ยาแก้แพ้ ยานอนหลับ ยาแก้ปวดบางชนิดอาจมีผลข้างเคียง ทำให้ง่วงนอนหรือมึนงง
ผู้ใช้ยาควรระวังในการขับรถ หรือใช้เครื่องจักรกล
- รับประทานยานี้แล้วปัสสาวะจะมีสีส้มแดง
ยาพวก Phenazopyridine ทำให้ปัสสาวะเป็นสีแดง อาจเข้าใจผิดว่าเป็นเลือด
แต่แท้จริงเป็นสีจากยา หรือยา Rifampicin ทำให้น้ำลาย น้ำตา ปัสสาวะ เป็นสีแดงส้ม
- เก็บไว้ในตู้เย็น
โดยทั่วไปหมายถึง การเก็บที่อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส (แช่ในช่องธรรมดา ไม่ต้องใส่ในช่องน้ำแข็ง)
หรือเก็บในกระติกน้ำแข็งตลอดเวลา เช่น ยาอินซูลิน วัคซีน หรือยาหยอดตาบางชนิด
|
|