เมตตา สิ่งที่ได้มาซึ่งความสุข

 
 

นายพลานออกล่าสัตว์ เป็นเวลาหลายวัน แต่ก็ไม่สามารถหาสัตว์ได้เลยสักตัว ทำให้นายพลานต้องก่ายหน้าผาก เพราะความกังวลว่าลูกจะกินอยู่อย่างไร จนกระทั่งนายพลานมาเจอแม่เสือ

 
     
 
เสือ

แม่เสือกำลังมุ่งหน้าออกล่าเหยื่อ จึงไม่ได้ระมัดระวังตัว ทำให้นายพลาน ยิงธนูเข้าอย่างจัง

แม่เสือตกใจมากแต่ดิ้นลนไปไหนไม่พ้นเพราะพิษบาดแผล

นายพลานวิ่งเข้ามาหาแม่เสืออย่างดีใจ แต่กับเห็นแม่เสือมีน้ำตาไหลออกจากสองตาไม่หยุด

 
     
 

นายพลานจึงถามว่า "เจ้ากลัวชีวิตจะหาไม่หรือ"

แม่เสือร้องไห้และพูดว่า "ไม่ได้กลัวชีวิตตัวเองจะหาไม่ แต่ก่อนตายอยากจะขอร้องนายพลานสักอย่าง"
นายพลานก็รับฟังแต่โดยดี แล้วแม่เสือก็พูดว่า

"ท่านจงถลกหนังของเรา แล้วนำไปขาย จากนั้นอยากจะขอให้ท่าน นำเนื้อของเราไปโยนไว้หน้าถ้ำ เพื่อลูกของเราจะได้มีอาหารประทังชีวิต"

เสือร้องไห้
 
     
 
ลูกเสือ

นายพลานฟังดังนั้น รู้สึกซาบซึ้งในความเป็นแม่ของเจ้าเสือยิ่งนัก จึงตอบตกลงทำตามคำขอ

หลังจากถลกหนังแล้ว ก็นำเนื้อของแม่เสือ ไปโยนไว้หน้าถ้ำตามสัญญา สักพักลูกเสือ 2 ตัว ก็ออกมากัดกินเนื้อที่นายพลานมาโยนไว้ โดยไม่รู้เลยว่าเป็นนั้นคือ เนื้อของแม่ตน

 
     
 

      ครั้นนายพลานขายหนังเสือแล้ว ก็รีบซื้อข้าวของมาให้ลูกตน พอนายพลานเห็นหน้าลูกก็นึกถึงแม่เสือขึ้นมาจับใจ และทำให้คิดเป็นห่วงลูกเสือสองตัวนั้นขึ้นมาทันที นายพลานตัดสินใจออกล่าสัตว์ให้เร็วขึ้น และจะต้องเอาสัตว์ 1 ตัว ที่ล่าได้ไปโยนไว้หน้าถ้ำ เพื่อลูกของแม่เสือตัวนั้น ครั้นเวลาผ่านไป ลูกเสือตัวโตใหญ่ขึ้นมาก และเริ่มออกหากินเองได้ นายพลานก็อุ่นใจ แอบมามองเจ้าเสือสองตัวอยู่บ่อยครั้ง

 
     
 

      จนกระทั้งวันหนึ่ง หลังจากนายพลานล่าสัตว์เสร็จและแอบมาดูลูกเสือตามเคย แต่กลับพบว่า เสือตัวผู้ที่ตัวโตเป็นหนุ่มสองตัวนั้น กำลังวิ่งพุ่งมาตะปบนายพลาน ตามสัญชาติญาณสัตว์ นายพลานหลับตาและคิดปลงได้ในทันทีว่า นี่คงเป็นกรรมของตนที่เคยฆ่าแม่ของเจ้าสองตัวนี้ และคิดอโหสิกรรมให้กับลูกเสือสองตัว

เสือ
 
     
 

      จากจิตใจที่รู้ผิดชอบชั่วดี ครั้นถูกเสือสองพี่น้องฆ่าตาย นายพลานก็ได้มาพบกับ ท่านยมฑูต

ท่านยมฑูต ได้กล่าวกับนายพลานว่า "ถึงแม้เจ้าจะหนีเวรกรรมที่ได้เคยทำไว้ไม่ได้ แต่ความเมตตาและรู้จักผิดชอบชั่วดีของเจ้านั้น ทำให้เจ้าได้หลุดพ้นจากวิบากกรรมทั้งปวง แถมยังได้บุญได้กุศล จากการกระทำของตัวเจ้าด้วย"

ท่านยมทูตเล็งเห็นความดีของนายพลาน จึงส่งนายพลานให้ไปเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ส่งนายพลานให้ไปอยู่ในตระกูลที่มีฐานะสูงศักดิ์ แทนที่จะส่งนายพลานให้ไปเป็นเสือในป่า

หากใครที่ได้กระทำผิดพลาดไป รู้สำนึกตน กับมาแก้ไขปรับปรุง แม้จะไม่สามารถลบล้างเวรกรรมที่ทำไว้ได้ แต่หากได้ทำบุญทำกุศลอย่างใจบริสุทธิ์แล้วนั้น บุญกุศลก็จะส่งผลให้ได้รับแต่สิ่งดีๆ ติดตัวไปไม่ว่าชาตินี้หรือว่าชาติไหน

ดังนั้นความมีเมตตาก็เป็นหลักสำคัญในการเป็นผู้เสียสละและรู้จักให้ จงทำเถอะความดี เสมือนเกลือรักษาความเค็ม เกิดเป็นมนุษย์แล้วไซ้รจงมีความดีคู่ตัวตลอดไปจนนาทีสุดท้ายของชีวิต ถึงจะคุ้มค่า ที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์