|
อาการอะไรที่แสดงว่าเพลาชำรุด และทำไมเราถึงต้องคอยสังเกตุ
เพลาขับ เป็นชิ้นส่วนสำคัญในการส่งกำลังให้รถสามารถเคลื่อนที่ไปด้านหน้า หรือด้านหลังได้ ซึ่งจำเป็นกับรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าทุกคัน เจ้าของรถควรหมั่นก้มดู และตรวจดูสภาพ ยางหุ้มเพลาขับ ว่ามีรอยร้าว หรือรอยแตกหรือไม่ หากมีให้เปลี่ยนทันที ปกติยางหุ้มเพลาจะมีอายุการใช้งาน 3-4 ปี สำหรับยางหุ้มเพลาของแท้จากศูนย์บริการ ส่วนยางหุ้มเพลาอื่นจะมีอายุประมาณ 1-2 ปี ในสภาพการใช้งานปกติ
อาการที่สังเกตได้ว่าเพลาขับรถยนต์เริ่มชำรุด
มีเสียงเหมือนโลหะขบกันบ้างดังแก๊กๆ ที่ล้อหน้า เนื่องจากหัวเพลาที่ติดกับล้อ มีข้อสังเกตอีกอย่าง คือ หากเลี้ยวขวาแล้วจะมีเสียงดัง จะเป็นเพลาซ้ายที่ชำรุด และหากเลี้ยวซ้ายแล้วมีเสียงดังจะเป็นเพลาขวาที่ชำรุด
มีอาการสั่นสะท้านขณะใช้ความเร็ว จะสะท้านไปถึงคอนโซลเกียร์ถึงแม้จะไม่ได้เลี้ยวก็ตาม แม้จะถ่วงล้อแบบจี้แล้วก็ไม่หาย แสดงว่าอาการของเพลาหัวในที่ติดกับเกียร์ชำรุด
สาเหตุ
-
ส่วนใหญ่เกิดจากยางหุ้มเพลาขาด ทำให้หัวเพลาสะบัดจาระบีออกหมด มีฝุ่น และทรายเข้าไปในหัวเพลา และเสียดสีกับเหล็ก หากยางหุ้งเพลาขาด และไม่เปลี่ยนโดยทันที หัวเพลาจะมีปัญหาติดตามมา
-
จาระบีหมดสภาพ โดยเจ้าของรถไม่รู้ ถึงแม้ยางจะไม่ขาด แต่จาระบีจะไม่มีสภาพให้การหล่อลื่นอีกต่อไป จาระบีที่ใช้ต้องเป็นจาระบีพิเศษสำหรับหัวเพลาขับเท่านั้น จาระบีทั่วไปจะไม่สามารถใช้ได้ เพราะจะเสื่อมสภาพความหล่อลื่นที่ร้อนสูง
-
c.v,joint หรือ spider จะมีอายุการใช้งานเช่นกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแหล่งผลิต และเทคนิคที่ผลิต หากเป็นของเดิมที่มาจากรถยนต์ จะมีอายุการใช้งานนาน แต่หากมีการเปลี่ยนด้วยอะไหล่มือสองแล้ว ระยะเวลาที่ใช้จะสั้นลง ขึ้นอยู่กับการดูแลสภาพยางหุ้มเพลา และการเปลี่ยนจาระบีเป็นหลัก
-
เกิดจากอุบัติเหตุ เมื่อมีการซ่อมแซมตัวถังแล้ว จุดยืด หรือโครงสร้างเปลี่ยนไป
-
ยางแท่นเครื่อง ยางแท่นเกียร์ ขาด หรือชำรุด ทำให้เครื่องสั่นเขย่า เป็นสาเหตุให้มีการเคลื่อนไหวของหัวเพลา spider ชำรุดได้
รู้อย่างนี้แล้ว หากได้ยินเสียง หรือมีอาการสั่นเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ก็ความรีบตรวจสอบ ก่อนที่อุปกรณ์อื่นๆจะเสียตามไปด้วยนะจ๊ะ
|
|