มาถึงสนามบินก็ราวๆ 8.00 น.ได้จ้า นี่ขนาดเป็นวันพฤหัสบดีนะผู้คนที่มาที่นี่เยอะมาจริงๆ อีกภาพนะจ้า

หน้าสนามบินจะมีธนาคารไว้แลกเงินจ้า ซึ่งตอนนั้น ณ วันที่ 10/07/51 อัตราแลกเปลี่ยนที่นี่ค่อนข้างได้ถูกมาก 1บาท=428 ดอง แต่ถ้าเป็นเงิน us 1us=16680 ดอง คิดแล้วตีเป็นเงินไทยก็ 1บาท=490 ดอง ดังนั้นแลกเงิน us มาดีกว่า

ส่วนภาพนี้ก็เป็นบันไดเลื่อนของสนามบินนอยไบจ้า

และเมื่อออกมาจากด้านหน้าสนามบินจะได้เห็นภาพแบบนี้

แล้วเราก็กระโดดขึ้นรถ พร้อมที่จะไปเที่ยวทัวร์ในทริปนี้กัน ถึงแล้ว วัดแห่งวรรณกรรม วัดโบราณ ซึ่งมีประวัติ ความเป็นมายาวนานนับร้อยปี เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกและยังเป็นสถานที่ใช้สอบ จ้องวน ในสมัยโบราณ

ด้านหน้าเต็มๆ อีกทีจ้า

อันนี้เป็นด้านในจ้า มีศาลเทพเจ้าขงจือและสานุศิษย์

ด้านข้างๆ ก็ตุ๊กตาเวียดนาม

อีกด้านจ้า

แล้วก็ด้านในศาลเทพเจ้าจะมีรูปหล่อแบบต่างๆ เยอะมากเลย

ภาพนี้มังกรตรงกระถางธูป สวยดี

ภาพด้านในของศาลเทพเจ้า

หลังจากชมวัดแห่งวรรณกรรมจนท้องร้องแล้ว ก็ถึงเวลาอาหารซะที อาหารบ้านเขาก็เหมือนๆ บ้านเราไม่ต่างกันมาก เพียงแต่ว่า อาหารบ้านเขาจะไม่รสจัด มาก แต่ก็ใช้ได้นะ หลังจากอิ่นจนท้องบวมแล้ว ก็เริ่มออกเดินทางสู่ อ่าวฮาลอง แล้วเราก็มาถึงโรงแรม ที่เราเข้าพักในวันนี้ Asean Hotel เอารูปการันตีมาให้ดูว่า 4 ดาวนะจ้า อิอิ

เห็นด้านหน้ากันแล้ว ก็ตามมาดูห้องพักกันบ้าง เตียงนอนสำหรับค่ำคืนนี้จ้า

ตามด้วยโต๊ะที่ไว้ให้นั่งทำงานเล็กๆ

มีกาแฟและชาไว้ให้ชงยามหิวๆ

ของฝากที่ระลึกอีกแล้วจ้า เก็บเรียบ

หลังจากเข้ามาพักในห้อง นั่งๆ นอนๆ เล่นสักพัก ก็ถึงเวลาออกไปช๊อปปิ้งกันแล้ว

ร้านขายของเพียบ สินค้าส่วนมากก็จะเป็นพวกสินค้าพื้นเมือง แต่ก็สวยดี ส่วนราคา ต่อกันแบบไม่ยั้ง ครึ่งเกินครึ่ง เอิกๆ

นักท่องเที่ยวก็หลากหลาย ชอบชอบ

สินค้าพื้นเมืองเยอะเลยจ้า

อีกภาพ และหลายๆภาพ ไม่ซื้อแต่เก็บภาพมาเหมือนได้ซื้อ อิอิ

ชัดๆ

ดูไปดูมาเริ่มเหมือนๆ ของบ้านเราเลย แต่ไข่มุกสวยมากนะ เขาจะเอาไฟจุดให้ดูเลย

หลังจากถ่ายภาพจนเงินยังไม่ได้ออกจากกระเป๋าแล้ว ก็ถึงเวลากลับที่พักไปนอนดีกว่า ตอนเช้าจะได้มีแรงนั่งเรือชมถ้ำ

เช้าแล้วก็แอบไปถ่ายสระว่ายน้ำที่ติดกับห้องอาหารมาให้ดูกัน

แล้วก็ออกเดินทางสู่ อ่าวฮาลอง ที่ใครๆ ก็รู้กันในนาม มรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก อ่าวแห่งนี้เต็มไปด้วยภูเขาหินปูนมากมาย และยังมีถ้ำที่ถูกค้นพบ เมื่อไม่นานมานี้และได้มีการประดับแสงสีตามผนังไว้ด้วย

แต่สวยจริงนะ ต้องมาดูด้วยตัวเองจ้า

หลังจากล่องเรือ และทานอาหารเสร็จ ก็ถึงเวลากลับฮานอยกันแล้ว ระหว่างทางก็จะมีการแวะให้ชมศูนย์หัตกรรมของคนพิการด้วย นี่คือหนึ่งในของฝากที่แสนแปลก

และยังมีที่แปลกกว่านี้อีก นั้นคือ อวัยวะเพศของงู ครั้งแรกที่เห็นเลย

หลังจากกลับมาถึงฮานอย ทัวร์ก็พาเราชมทะเลสาบคืนดาบและพาเราเข้าชมวัดหงอกเซิน

หลังจากนั้น เราก็ถึงเวลาช็อปกันอีกแล้ว คราวนี้จะพาไปเดินตลาด หรือที่ใครๆ เรียกกันว่าถนน 36 สายเก่า ภาพร้านดอกไม้จ้า

ไม่ได้ถามราคา เพราะว่าพูดกันไม่รู้เรื่อง เอิกๆ คนที่นี่จะพูดภาษาอังกฤษได้ แต่ไม่ทุกร้านจ้า มาที่นี่ก็ศึกษาเรื่องตัวเลขในภาษาเวียดนามไว้ ก็เอาตัวรอดได้แล้วจ้า

เดินมาสักพักก็จะเจอร้านประมาณนี้เต็มเลย ขายไรหว่า โต๊ะที่นั่งเล็กมาก เพราะคนที่นี่มีแต่ตัวเล็กๆ

แล้วนี่ก็เตาบ้านเขาที่เอาไว้ปิ้งย่าง แปลกดีเนอะ

ขอถ่ายหน่อย อะไรก็ไม่รู้ อยากกินแต่กลัวท้องเสีย เอิกๆ เดี๋ยวไปดูระบำตุ๊กตาน้ำไม่ได้ ไม่งั้นเสร็จแน่

ร้านอาหารเวียดนาม ที่ขายอาหารของเวียดนามจริงๆจ้า

ทานอาหารเสร็จ ก็มาดู ระบำตุ๊กตาน้ำกัน

ชาวต่างชาติมาดูกันเพียบเลย

เมื่อแสดงจบ คนที่อยู่หลังม่านก็จะออกมาแบบนี้

ถึงเวลากลับที่พักกันแล้ว โรงแรม SunWay Hotel

ยืนยันว่า ของเขา 4 ดาวจริงๆจ้า

มาดูห้องนอนกัน

ของแถม

กาแฟและชา

อันนี้ห้องน้ำจ้า

คืนนี้ขอนอนก่อนนะจ้า ไม่ออกไปไหน เพราะพรุ่งนี้ต้องไปชมสุสานประธานาธิบดี โฮจิมินห์และพิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์จ้า

ด้านในของพิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์

เดินเข้ามาอีกหน่อย

จะมีการจัดวางทั้งรูปแบบโดยช่างจากรัสเซีย

หลายภาพมากเลย เอามาฝากกัน

ถ้าคนเยอะๆ อากาศด้านในจะไม่ค่อยเย็น เท่าไหร่ หลังจากออกมาจากพิพิธภัณฑ์แล้ว ก็ไปดูหมู่บ้านผ้าไหมกัน

หมู่บ้านผ้าไหมจ้า

เจ้าหนอนที่มาทำผ้าไหมให้เรา ซื้อกัน

แล้วก็มาชักใยกัน

แต่ที่น่าสนใจ จะมีเจ้า สุนัขแสนน่ารักมานอนอยู่ หน้าตาแปลกดี

หลังจากนั้นก็ช๊อปกันกระจาย แล้วรถก็วนกลับมาในตัวเมืองฮานอยอีกครั้ง ข้างๆ ทางก็จะเป็นอย่างที่เห็น ก็เหมือนๆ บ้านเรา

วันนี้กลับมาพักผ่อนที่โรงแรมเดิมได้เร็วหน่อย เพราะว่าคืนนี้จะออกไปเดินตลาดตอนกลางคืนของกรุงฮานอย กลับมาปุ๊บก็มา รอขึ้นห้อง แต่เนื่องจากคนเยอะเลยเดินถ่ายภาพรอบๆ ล๊อปปี้มาฝากกัน

รางวัลต่างๆ ตั้งโชว์ไว้เยอะไปหมด

ด้านนี้ก็มีเป็นถ้วยเลย ไม่รู้ได้แชมป์อะไรมา อิอิ

แล้วก็มีกระถางดอกไม้ปลอมเหมือนๆ ของบ้านเราเลย แต่มันเหมือนของจริงมากๆ

อีกภาพแล้วกัน

ได้เวลาเที่ยวกลางคืนกันแล้วแหละ ไปเลย ออกเดินทางโดยรถแท็กซี่ นั่งได้ 7 ที่นั่ง สบายโลด คนขับแท็กซี่ที่นี่จะพูดภาษาอังกฤษได้ดี เลยทีเดียว และจะรู้จัก โรงแรมเกือบทุกโรงแรมในฮานอยเลย ดังนั้นก็สบายมาก ไปเลยตลาดตอนกลางคืน แต่เขาก็มาส่งเราที่นี่ ถนน36 เหมือนตอนกลางวันของเมื่อวานที่เรามาเลย แต่ก็ดี งั้นก็ไปถ่าย ร้านไอศครีมที่อยู่ติดกับทะเลคืนดาบ ที่ใครๆ เขาว่าคนที่นี่ชอบกินกัน แต่ที่เห็นๆ คือเปลือกถุงไอศครีม ที่เต็มเกลื่อนหน้าร้านไปหมด แต่ก็เอา ไปซื้อมาลองกิน 1 แท่ง รสชาติก็ประมาณบ้านเราดีๆ นี่เอง

แล้วก็เดินข้ามถนน ที่มีแต่รถมอเตอร์ไซค์ วิ่งกันซ้ายขวาหน้าหลัง เห็นแล้วถึงกับ(ตูจะรอดไหมเนี้ย)แต่ได้ครูไกด์ชาวเวียดนามดี เขาบอกว่า เดินไปข้างหน้า แล้วห้ามเดินถอยหลัง เดินไปเลยไม่ต้องกลัว นั้น..... ตูก็เอาสะเลย เดิน เดิน แล้วก็เดิน(เสียวหลังวาบๆ) สุดท้ายก็มาเจอตลาดกลางคืน ซึ่งก็ขายประมาณภาพล่ะจ้า

แล้วก็

ตลาดตอนกลางคืนของเขาก็เหมือนๆ บ้านเราเลย มีพวกปลอกมือถือ พวงกุญแจ รองเท้า เสื้อผ้า เหมือนๆ บ้านเราจ้า เดินได้สัก 5 ทุ่ม ก็กลับโรงแรม ทริปนี้มีเด็กๆ เลยอด เข้าผับบ้านเขา ทริปหน้าไม่พลาด เลยกลับโรงแรมไปนอนรอเที่ยวพรุ่งนี้ดีกว่า

พอเช้าก็ออกรถไปเที่ยว วัดเฉินก๊วก เป็นวันที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองและบริเวณทะเลสาปตะวันตกภายในวัดจะมีต้นมหาโพธิ์ที่นำมาจาก ประเทศ อินเดีย ต้นใหญ่มากเหมือนกันนะ แล้วก็จะมีเจดีย์หลายชั้น ดังในภาพ

ด้านในจ้า

แล้วก็จะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้กราบไว้

หลังจากไหว้พระเป็นสิริมงคลแล้วก็มาดูวิถีชาวบ้านกัน ที่นี่ยังดูดยากันอยู่มาก

แล้วก็ที่เที่ยวที่สุดท้าย พิพิธภัณฑ์ทหาร รวบรวมเรื่องราวของสงครามไว้ให้คนรุ่นหลังดูกัน

เหมือนสุสานแห่งเครื่องรบ

อีกรูป

และรูปสุดท้ายของทิรปนี้จ้า ฝากปืนไว้สักกระบอกนะ แล้วเจอกันใหม่จ้า...